06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 5 เคาน์เตอร์ K สายการบิน AIR ARABIA (G9) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
09.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ โดยสายการบิน AIR ARABIA เที่ยวบินที่ G9 822
(ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง หากท่านใดต้องการ สามารถซื้อบนเครื่องได้)
(ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง)
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM
ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน
12.25 น. ถึง สนามบินซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ (รอเวลาสำหรับเปลี่ยนเที่ยวบิน 1 ชั่วโมง) เพื่อเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
13.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน AIR ARABIA เที่ยวบินที่ G9 287
(ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง หากท่านใดต้องการสามารถซื้อบนเครื่องได้) (ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง)
17.05 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT) สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรเคียช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรเคียจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรเคียจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก ISTANBUL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง
**** โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม ****
🧕 สุภาพสตรี : : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูปและเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
👳 สุภาพบุรุษ :: ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
จากนั้นชมจัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7
นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) (ภายนอก) หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา)บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า "SOFIA" มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า "ปัญญา" จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอังการา (ANKARA) เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรเคียและเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ศูนย์กลางของการค้าขาย ให้ท่านอิสระพักผ่อนบนรถชมวิวเมือง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)
จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์อตาเติร์ก (Ataturk Mausoleum) อนุสรณ์สถาน หรือ สุสานขนาดใหญ่ของ “มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก” บุคคลสำคัญผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งชาวเติร์ก ของประเทศตุรเคีย และเป็นประธานาธิบดีคนแรกผู้นำตุรเคียเข้าสู่ยุคใหม่ สุสานแห่งนี้ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์และลานสำหรับทำพิธี ทำให้ชาวตุรเคียจำนวนไม่น้อยเดินทางมาด้วยวัตถุประสงค์คล้ายการจาริกแสวงบุญ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก ANKARA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (KATPATUKA) เมืองมหัศจรรย์ที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงามที่สุด (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)
ระหว่างทางแวะถ่ายรูปทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตุรเคียและเป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านชม นครใต้ดินชาดัค(UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเกียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเกียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสตจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
แวะถ่ายรูป หุบเขาอุซิซาร์ (UCHISAR VALLEY) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขา ดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะรอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย
นำท่านชม หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย
แวะถ่ายรูป หุบเขาแห่งรัก ( Love Valley ) หุบเขาในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์ที่สุดในภูมิภาค Cappadocia ของตุรเคีย ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเกอเรเม และเป็นที่รู้จักจากลักษณะ ภูมิทัศน์ขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟและการกัดเซาะเป็นเวลาหลายพันปี เป็นผลให้เกิดหุบเขาลึกและยอดเขาที่แหลมคมในดิน ในหุบเขาแห่งความรัก การก่อตัวเหล่านี้บางส่วนได้รับรูปร่างที่พิเศษมาก ซึ่งทำให้หุบเขานี้มีชื่อ (หรือ "หุบเขาแห่งความรัก")
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก CAPPADOCIA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้ามืด คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม) **เฉพาะท่านที่เลือกซื้อ Optionaltour**
** ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการซื้อ Option Tour (Balloon , Classic Car , Jeep) ผ่านหัวหน้าทัวร์เท่านั้น ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาทัวร์ และด้านความปลอดภัยของตัวท่านเอง รวมถึงการจัดการบริหารเวลาของกรุ๊ปทัวร์ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ **
⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ HILIGHT!! ขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในมุมสูง (CAPPADOCIA BALLOON VIEW) การขึ้นบอลลูน นั้นเป็นสัญลักษณ์ของตุรเคีย จะพาให้ท่านเคลิบเคลิ้มไปกับการชมพระอาทิตย์ยามเช้า และชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย แบบพาโนราม่าวิว ชมเมืองอารยธรรมโบราณ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สัมผัสบรรยากาศมุมสูง เก็บภาพที่สวยงามรอบตัว (ค่าใช้จ่ายในการขึ้นบอลลูน ราคาท่านละประมาณ 280 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์ ทั้งนี้.. การขึ้นบอลลูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม* โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ **ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ JEEP SAFARI เที่ยวชมเมืองคัปปาโดเกีย ตุรเคีย หนึ่งในการเดินทางที่สุดประทับใจ บนเส้นทางที่สุดตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ของเมืองประวัติศาสตร์นับล้านปี ชมความงามของหุบเขาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้าง (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง JEEP SAFARI ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ CLASSIC CAR นั่งรถคลาสสิกเปิดประทุนชมวิวบอลลูนอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็น UNSEEN ของเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ ที่จะต้องมาถ่ายรูปคู่กับบอลลูนสีสันสดใส คู่กับรถเปิดประทุนสุดคลาสสิก นั่งรถเปิดประทุนสูดอากาศเย็นๆ ยามเช้า ชมวิวบอลลูนสดใสบนท้องฟ้า (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง CLASSIC CAR ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม หมู่บ้านอวานอส (ร้านเครื่องปั้นดินเผาเซรามิก) หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา อุปกรณ์ที่ใช้ภายในบ้าน ถ้วย,ชาม,ไห,โอ่ง,แจกันและเครื่องประดับบ้าน จากนั้น นำท่านชมผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเซรามิก
จากนั้น นำท่านแวะร้านจิวเวอร์รี่ อิสระในการเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก เช่น แหวน,สร้อยคอ,สร้อยข้อมือ,ต่างหู เป็นต้น นำท่านแวะร้านทอพรมสไตล์ตุรเคีย อิสระในการเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่าปราสาทปุยฝ้าย อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรเคีย เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.ศ. 2531 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก PAMUKKALE HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม เมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป เช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 - 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบูซ่าร์ ( BURSA ) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตุรเคีย มีความสำคัญแ ละใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศและเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านเส้นไหมเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างๆ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออตโตมาน ตั้งแต่ปีค.ศ.1326-1362 และ จากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่เอดิร์เน ที่อยู่ทางด้านเหนือของกรุงคอนสแตนดิโนเปิล ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง )
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าบูซาร์ ( Bursa Grand Mosque ) ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียดและซับซ้อนอย่าง พิสดารทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของศาสนา อิสลามและรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ ในอดีตกษัตรยิ์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมัน ได้ใชเ้มืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงาม ร่มรื่น ไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มเป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว Green Bursa นำท่านชม สุสานสีเขียว Green Tomb สุเหร่าสีเขียว หรือ Yesil Mosque สถานที่ศักด์สิทธิ์ทางศาสนา ที่ความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองบูซ่าร์ถูก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1491 - 1421 โดยสถาปนิก ชื่อ Haci Ivaz Pasa โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ซา อาคารสุเหร่ามีความโดดเด่นจากการใช้กระเบื้องหินอ่อนพื้นสีเขียวในการตกแต่งผนังและเพดาน ด้านในก็ถูก ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเดิลสีเขียวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ภายในสุเหร่าแห่งนี้ยังมีที่บรรจุศพของสุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงถือได้ ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศตุรเคีย
จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดผ้าไหมเมืองบูซาร์ (BURSA SILK MARKET) โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก และด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดที่สวยงามที่สุด จนครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ควีนอลิซาเบท แห่งอังกฤษเคยมาเยือนด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ
ที่พัก BURSA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) เมืองสำคัญอันดับ 1ของประเทศ เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส (BOSPHORUS) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม.)
นำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea)ทะเลมาร์มา (Sea Of Marmara) มีความยาวประมาณ 32 กม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าที่สุดของยุโรปและเอเชียมาพบกันที่นี่นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรเคียอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งสองข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีตุรเคียและมีป้อมปืนตั้งเรียงราย
นำท่านเพลินเพลินกับ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล สินค้าส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ นำท่านแวะร้าน Hazerbaba เป็นร้านที่ขายขนมTurkish Dilight ถั่วต่างๆ ชาต่างๆอิสระช้อปปิ้ง
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ ย่านการค้าชื่อดัง แกรนด์บาร์ซาร์ (Grand Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกลาง ค.ศ. 15 เป็นตลาดค้าพรมและทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรเคีย มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรเคียอย่างจุใจ เช่น โคมไฟ, ของฝาก, ผ้าพันคอ ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมโรงงานเครื่องหนัง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรเคีย ตุรเคียเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก ISTANBUL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ หอคอยกาลาตา GALATA TOWER (GALATA KULESI) หรือบางทีเรียกว่า CHRISTEA TURRIS ซึ่งแปลว่า หอคอยแห่งพระคริสต์ ในภาษาละติน เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา-คาราค็อย (GALATA – KARAKÖY) ของนครอีสตันบูล, ประเทศตุรเคีย เป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล นอกจากนี้ตลอดแนวถนน ยังเต็มไปด้วยอาคาร และร้านค้า ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่สวยงามและแปลกตาอีกด้วย
จากนั้นให้ท่านเดินเล่น ย่าน BALAT เป็นย่านที่เก่าแก่และสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้มาเยือน ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย พื้นถนนปูด้วยหินก้อนโตๆ บ้านเรือนมีลักษณะเป็นตึก และมีสีสันแจ่มจรัส แต่มีอายุมากกว่า 50 ปีมาแล้ว ซึ่งในบางหลังมีอายุกว่า 200 ปีที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมายตั้งอยู่ที่นี่
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล
14.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ โดยสายการบิน AIR ARABIA เที่ยวบินที่ G9 322
(ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง หากท่านใดต้องการ สามารถซื้อบนเครื่องได้)
19.30 น. ถึง สนามบินซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ (รอเวลาสำหรับเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 3 ชั่วโมง)
เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย
22.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน AIR ARABIA เที่ยวบินที่ G9 821
(ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง หากท่านใดต้องการ สามารถซื้อบนเครื่องได้)
07.50 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
77/62 หมู่บ้านภัทรีดาอเวนิว รังสิต คลอง2/2
หมู่2 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120